หน่อไม้ถือเป็นของขวัญจากผืนดิน เช่นเดียวกับใบย่านาง เป็นพืชที่ขึ้นตามหัวไร่ปลายนาทั่วไปชาวอีสาน แต่ดั้งเดิมใช้ภูมิปัญญา นำวัตถุดิบตามธรรมชาติในฤดูกาลเดียวกันมาปรุงอาหารที่กลมกล่อม ทั้งหน่อไม้รสหวานขม แกงกับย่านางรสจืดเย็น จะช่วยชูรสของกันและกัน ให้อร่อยยิ่งขึ้น
(แกงเปรอะ เป็นการเรียกแบบภาคกลาง คนอีสานเรียกแกงชนิดนี้ว่า อ่อมหน่อไม้ หรือแกงหน่อไม้)
คุณค่าทางโภชนาการ
หน่อไม้ มีเส้นใยสูง รสขมหวาน มีสรรพคุณร้อน ช่วยขับปัสสาวะ แก้ไตพิการ ทั้งเชื่อว่ายาขับฟอกล้างโลหิตระดูที่เสียส่วนย่านาง มีแคลเซียมสูง อุดมด้วยสารคลอโรฟิลล์ วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน ในปริมาณค่อนข้างสูง และมีสรรพคุณเป็นยาถอนพิษส่วนผสม
หน่อไม้สดหั่นชิ้นบางๆ 500 กรัม
เห็ดฟางหรือเห็ดนางฟ้า 1 ถ้วย
ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำใบย่านางคั้นข้นๆ 3 ถ้วยตวง
ชะอม 4 – 5 ช่อ
ใบแมงลักประมาณ 4 – 5 ช่อ
ส่วนผสมเครื่องแกง
พริกขี้หนู 5 เม็ด
ตะไคร้หั่นเป็นแว่น 1 ต้น
กระชายหั่นเป็นท่อนสั้นๆ 3 แง่ง
หอมแดง 4 หัว
กระเทียม 3 กลีบ
วิธีการทำ
1. นำปลาร้าไปต้มและกรองเอาแต่น้ำ ให้ได้น้ำปลาร้าข้นๆ ประมาณ 1 ถ้วย2. นำน้ำคั้นใบย่านางใส่หม้อ ใส่หน่อไม้ลงไป ให้น้ำใบย่านางท่วมหน่อไม้ ตั้งไฟทิ้งไว้ให้เดือด จึงเบาไฟเคี่ยวต่อไปประมาณ 10 นาที ถ้าน้ำน้อยเกินไปเติมน้ำสุกลงไปเล็กน้อย
3. ตำเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด แล้วจึงใส่กะปิ โขลกให้เข้ากัน
4. เร่งไฟหม้อต้มหน่อไม้ให้เดือด เดือดใส่เห็ดลงไป และตามด้วยพริกแกง
5. ค่อยๆ ใส่น้ำปลาร้าลงไป ชิมดูให้เค็มพอดี ให้น้ำแกงข้นๆ แค่พอท่วมหน่อไม้ ใส่ชะอมและแมงลัก พอสุกแล้วจึงยกลงจากเตา